สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เข้าหารือแลกเปลี่ยนประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน
วันที่: 2 พฤษภาคม 2566 ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เข้าหารือแลกเปลี่ยนประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน กับส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งของประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น
วันที่ 2 พ.ค. 66 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายดิป มาการ์ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าหารือกับ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งของประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้
นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดที่มีการเปิดกว้างให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทั้งคนในเมือง รอบนอก และชายแดน โดยได้เปิดพื้นที่สาธารณะในการนำเสนอนโยบายและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองจากทุกพรรคการเมืองและคนทุกกลุ่ม เพื่อให้เกิดการรับฟังอย่างรอบด้านโดยไม่มีการชี้นำหรือปิดกั้น และให้ประชาชนมีเสรีภาพในการเลือกคนและพรรคการเมืองเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิเลือกตั้งและการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย หรือ ศส.ปชต. ที่มีอยู่ใน 205 ตำบล ลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการกากบาทที่ถูกต้องในบัตรเลือกตั้ง ทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านการทำคลิปวิดีโอ และการให้ความรู้ผ่านสื่อวิทยุด้วยภาษาถิ่นของพื้นที่นั้น ๆ โดยจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนกลุ่มชนเผ่าที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 120,000 คน กระจายอยู่ใน 25 อำเภอ
สำหรับการเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ มีการแบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 10 เขต 2,605 หน่วยเลือกตั้ง มีประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ของประเทศ และเป็นลำดับที่ 1 ของภาคเหนือ ในจำนวนนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหม่ 78,000 คน จากทั้งประเทศ 3,200,000 คน โดยบัตรเลือกตั้ง จะมี 2 ใบ คือ สีม่วง สำหรับการเลือกพรรคการเมือง และสีเขียว สำหรับเลือก ส.ส. บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังมีบัตรเลือกตั้งอักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา รวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ไม่สามารถจับปากกาลงคะแนนเองได้ โดยจะมีผู้ช่วยเหลือนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าคูหาลงคะแนนให้ตามความประสงค์และตามความยินยอมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ภายใ ต้การดูแลของกรรมการประจำหน่วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 ของประเทศ ในประเภทจังหวัดที่มีประชากรเกิน 1 ล้านคน โดยในครั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิกว่าร้อยละ 85
สำหรับในส่วนของการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ยังไม่พบการร้องเรียนแต่อย่างใด แม้จะพบว่าประชาชนต่างให้ความสนใจและตื่นตัวที่จะออกมาใช้สิทธิในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งและการนับคะแนนด้วยตนเอง และยังสามารถติดตามคะแนนอย่างไม่เป็นทางการแบบเรียลไทม์ได้บนเว็บไซต์ของ กกต. ส่วนผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ทาง กกต. จะประกาศผลภายใน 30 วันหลังจากวันเลือกตั้ง
ขณะที่ การเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม นี้ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า จำนวน 66,000 คน โดยเมื่อลงคะแนนแล้วเสร็จ ผู้ใช้สิทธิจะพับบัตรลงคะแนนทั้ง 2 ใบ ใส่ซองจดหมายแล้วหย่อนลงหีบเลือกตั้ง เพื่อจัดส่งไปยังเขตเลือกตั้งของแต่ละคนโดยไปรณีย์ไทยทันทีหลังปิดหีบ นอกจากนี้ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ จะรอรับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 61,000 คน จากทั้งนอกราชอาณาจักร และต่างจังหวัด เพื่อนำไปนับคะแนนพร้อมกันในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ต่อไป
เครดิต : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ / ข่าว-ภาพ
นางสาว ศิริลักษณ์ ทาแดง
1 ตุลาคม 2566